Last updated: 14 ม.ค. 2567 | 431 จำนวนผู้เข้าชม |
สัญญากู้ยืมเงิน..อย่าคิดว่าหมู
สัญญากู้ยืมเงินมี 2 ประเภทนะครับ ประเภทแรก เป็นการกู้ยืมแบบปกติทัวไปกล่าวคือ มีคนมาขอกู้เงินเรา มีการทำสัญญากูู้เป็นหนังสือ แล้วเซ็นชื่อทั้งผู้กู้, ผู้ให้กู้ ส่งมอบเงินที่กู้หรือโอนเงินเข้าบัญชีผู้กู้ หากครบกำหนดชำระหนี้แล้วผู้กู้ไม่ชำระหนี้ ผู้ให้กู้ก็นำสัญญากู้ให้ทนายยื่นฟ้องลูกหนี้ ไม่มีอะไรยุ่งยาก
ประเภทที่สอง มีสัญญกู้ยืมตามปกติ แต่มิได้การกู้กันจริง ไม่มีการส่งมอบเงินที่กู้ให้แก่ผู้กู้ แต่เป็นการแปลงหนี้ใหม่มาจากหนี้เดิม แบบนี้ต้องมีบันทึกเป็นเอกสารมีข้อความระบุให้ชัดเจนว่าหนี้เดิมเป้นหนี้อะไร แปลงหนี้มาเป็นการกู้ยืม ส่วนหนี้เดิมคู่สัญญาตกลงกันให้ระงับไป ซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลาชำระหนี้แล้ว ผู้กู้หรือลูกหนี้ไม่ชำระ เจ้าหนี้หรือผู้ให้กู้ก็สามารถฟ้องร้องบังคับคดีได้ แต่คำฟ้องต้องระบุให้ชัดเจนว่าเป็นการแปลงหนี้ใหม่ หนี้เดิมตกลงกันให้ระงับ แล้วต้องลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่ายในบันทึกนั้นด้วย แบบนี้ก็สามารถนำมายื่นฟ้องลูกนี้ได้
แต่ประการสำคัญที่สุด หนี้เดิมนั้นต้องเป็นหนี้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เป็นโมฆะนะครับ หากหนี้เดิมเป็นโมฆะ หนี้ใหม่หรือหนี้เงินกู้ก็ไม่เกิด ฟ้องร้องไม่ได้นะครับ
ผมทำบทความนี้ก็เพราะเห็นว่า เป็นที่นิยมกันจัง เวลาเป็นหนี้กันขึ้นมักจะเปลี่ยนหรือแปลงหนี้มาเป็นหนี้กู้ยืม แต่ทำไม่ครบเงื่อนไขตามกฎหมาย มักจะมีปัญหาตามมาเสมอ
ทนายกฤษณะ ..
13 พ.ค. 2567
13 ก.พ. 2567
12 พ.ค. 2567
15 ก.พ. 2567