เรียน ทนายกฤษณะ

ได้เช่าซื้อรถยนต์มาก่อนน้ำท่วม ยังไม่ได้ส่งค่างวด และมาเริ่มส่งเมื่อตอนเมื่อวันที่ 23/2/55 , 23/3/55 และ 31/5/55 แต่ไฟแนนซ์บอกว่าไม่สามารถตัดยอดได้ ปัจจุบันนี้ไฟแนนซ์แจ้งว่าค้าง 7 งวด ต้องชำระทั้งหมด หรือก็ต้องนำรถมาคืน แต่ได้ต่อรองกับไฟแนนซ์ว่าจะขอส่งค่างวดต่อ แต่ไฟแนนซ์ต้องการให้นำรถมาดู และทำเรื่องพักชำระหนี้ ได้สอบถามเพื่อน เพื่อนบอกว่าถ้านำรถมาให้ทางเขาก็จะยึดรถไม่สามารถนำกลับไปใช้ได้ และไม่สามารถพักชำระหนี้ได้ เหมือนหลอกให้เราเอารถมาคืน ทางไฟแนนซ์แจ้งว่าถ้าไม่นำรถมาให้ก็จะแจ้งความข้อหายักยอกทรัพย์ทั้งคนซื้อ และคนค้ำประกัน ได้โทรติดต่อขอทราบยอดหนี้คงค้างที่จะเคลียร์ให้เป็นปกติและขอส่งต่อไป พอโทรไปเขาก็จะให้ชำระเลยโดยไม่ให้เวลาในการหาเงินจำนวนที่ค้างอยู่ ไม่ทราบว่าในกรณีอย่างนี้ดิฉันจะทำอย่างไรดีค่ะ

อย่างที่เขาว่านั่นแหละ ถ้านำรถมาเขาก็ยึดเลย ทางที่ดีติดต่อขอพักชำระหนี้ดีกว่า ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ อย่าไปคุยกับฝ่ายทวงหนี้

แล้วทางไฟแนนซ์เขาจะแจ้งความข้อหายักยอกทรัพย์ไหมค่ะ เพราะเขาพูดอยู่นั้นแหละว่าถ้าไม่เอารถมาจะแจ้งความกลัวคนค้ำเดือนร้อนด้วยค่ะ

ถ้าเขาดำเนินคดีอาญา มันไม่เกี่ยวกับผู้ค้ำประกันเลยครับ ผู้ค้ำจะเดือดร้อนก็เฉพาะทางแพ่งเท่านั้น

โทษร้ายแรงไหมค่ะ กลัวต้องออกจากงาน เพราะตอนนี้กำลังท้องจะคลอดเดือนหน้าแล้ว

ข้อหายักยอกทรัพย์ จำคุกไม่เกิน 3 ปี แต่ถ้ารับสารภาพและหาเงินมาให้เจ้าหนี้บางส่วน เท่าที่เห็นก็รอลงอาญา

ถ้าแจ้งความใช้เวลานานไหมค่ะ ถ้าระหว่างนั้นเราหาเงินมาได้บางส่วนและส่งให้ ตำรวจจะดำเนินคดีกับเราไหมค่ะ

การฟ้องอาญาทำได้ 2 วิธี คือฟ้องเอง หรือให้ตำรวจดำเนินการ ใช้เวลานานแค่ไหน ตอบไม่ได้หรอกแล้วแต่เหตุการณ์ ส่วนการผ่อนชำระไปเจรจาที่ศาลดีกว่า

ฝ่ายทวงหนี้อ้างเป็นตำรวจ แทนตัวเป็นผู้กอง โทรเข้ามือถือไม่รับก็โทรเข้าที่ทำงาน โทร.จนรำคาญยังงี้ทำอะไรได้ไหมค่ะ และอีกข้อถ้าตำรวจดำเนินการต้องมีการประกันตัวหรือไม่ค่ะ และค่าประกันตัวเท่าไร ถ้าไม่มีค่าประกันตัว ทางตำรวจจะดำเนินการอย่างไร

คดีแบบนี้มันยอมความได้ เท่าที่เห็นมาไม่ต้องประกันตัวแต่ถ้าเขามีหมายเรียกก็ต้องไปตามนัดทุกครั้ง