รบกวนทนายกฤษณะด้วยครับ
ขอคำปรึกษาเรื่องหลานชายถูกหมายจับครับ
หลานชื่อ นายมอส ครับ เหตุการณ์เป็นอย่างนี้ครับ

เวลาประมาณ 4 ทุ่ม นายมอสนั่งกับเพื่อนๆ ประมาณ 6 คน หน้าร้านเกมส์(ริมถนน)
มีคนกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมา 8 คน ผู้ชาย(โจทก์) 1 คน ผู้หญิง 7 คน ดูลักษณะเป็นแรงงานต่างด้าว(พม่า)
นายมอสจึงได้พูดเล่นกับเพื่อนเสียงดังว่า "เดี๋ยวตีหัวซะเลย" ถือไม้ไว้ในมือ แต่ไม่ได้ลุกเดินเข้าไป
โจทก์หันหน้ากลับมามอง นายมอสจึงถามว่า "มองอะไรครับ"
โจทก์เดินวกกลับมา แล้วดึงเสื้อขึ้น โชว์ปืนที่เหน็บไว้ที่เอว
เมื่อเห็นปืน นายมอสกลัวจึงพูดว่า "ไม่มีอะไรครับพี่ ผมล้อเล่น"
โจทก์จึงเดินออกไป
นายมอส โทรหาเพื่อน ชื่อนายดรีม บอกเพื่อนว่า**** "เฮ้ย พม่ามันมีปืนว่ะ ปล้นมันเลยมั้ย มันพกปืน"****
สักพัก นายดรีมขี่รถมอเตอไซค์ออกจากบ้านมารับ ไปด้วยกัน 2 คน จุดประสงค์เพื่อออกตามหาโจทก์
พบโจทก์เดินอยู่บริเวณ 4 แยก มีประชาชนทั่วไปอยู่ในบริเวณนั้นด้วย
นายดรีม ได้ขี่มอเตอไซค์เข้าไปจอด แล้วลงจากรถ ดึงปืนออกมาจากเอว
แล้ววิ่งเข้าไปเอาปืนจ่อหน้าผากโจทก์
(ให้การภายหลังว่า ปืนนั้นไม่มีลูก) ***ส่วนนายมอส ได้นั่งคร่อมมอเตอไซค์อยู่***
นายดรีมขู่โจทก์ว่า "ปืนมึงอยู่ไหน" โจทก์บอก "น้องใจเย็นก่อน"
นายดรีมบอก "ไม่ใจเย็นหรอก ปืนอยู่ไหน"
นายดรีมเปิดเสื้อโจทก์ เจอปืนอยู่ที่เอวโจทก์ จึงดึงออกมา
แล้วนายดรีมปลดแม็กปืนออก ***ส่งปืนมาให้นายมอสที่นั่งคร่อมมอเตอไซค์อยู่***
****นายมอสถือปืนดังกล่าวไว้ข้างตัว ไม่ได้ยกขึ้นไปเล็งโจทก์****
ในระหว่างนั้น แม่นายดรีม ซึ่งเห็นนายดรีมออกจากบ้านพร้อมปืนได้ตามมา
แม่นายดรีม บอกให้โทรหาตำรวจ เพราะพม่าพกปืน
โจทก์บอกว่า ไม่ต้องโทรหรอก เพราะโจทก์เป็นตำรวจ
แม่นายดรีม ขอดูบัตร พบเป็นตำรวจจริง จึงได้บอกให้เอาปืนคืนโจทก์
พูดคุยในที่เกิดเหตุ ตกลงไม่เอาเรื่องกัน แยกย้ายกัน แต่หลังจากนั้นโจทก์ได้แจ้งความ

ตำรวจแจ้งข้อหา 3 ข้อหาคือ
1.ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น
2.มีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
3.และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุอันสมควร

อยากเรียนปรึกษาว่า นายมอสควรต่อสู้คดีในแนวทางไหนดีครับ
มีโอกาสชนะคดีหรือไม่ หรือหากแพ้คดี จะถูกตัดสินรวมประมาณกี่ปีครับ
ขณะนี้กำลังตัดสินใจมอบตัวครับ แต่อยากปรึกษาทนายดูก่อนครับ

ขอบกราบพระคุณทนายกฤษณะเป็นอย่างสูงครับผม

ตามข้อเท็จจริงที่เล่ามา น่าจะเป็นการร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนมากกว่า ส่วนจะเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าด้วยหรือไม่ ต้องได้ความว่าปืนที่ใช้จ่อหน้าผากนั้น มีการเหนี่ยวไกปืนค้างไว้หรือไม่ ถ้าเหนี่ยวก็เป็นพยายามฆ่า

[size=150%]หมายเหตุ พม่าที่ถูกจื้ชิงปืนนั้น เขาเรียกว่าผู้เสียหายครับ อย่าไปเรียกว่า โจทก์ เพราะคดีแบบนี้โจทก์น่าจะเป็นอัยการ[/size]

ขอบคุณครับ