พ่อน้องนาวา

พ่อน้องนาวา

ผู้เยี่ยมชม

suchart_nik@hotmail.com

  ฟ้องขับไล่ แต่โดนสู้คดีครอบครองปรปักษ์ และศาลชั้นต้นพิจารณาให้ผู้ครอบครองปรปักษ์ชนะ (7891 อ่าน)

9 ม.ค. 2556 14:33




เรื่องมีอยู่ว่า ผมได้ซื้อที่ดินมีโฉนด จำนวน 37 ไร่ 2 งานเมื่อปี 2554 จากเจ้าของที่ดิน และในที่ดินนั้นมีคนอาศัยอยู่นานมากแล้ว ตอนก่อนจะซื้อได้ถามเจ้าของที่ดิน และคนที่อยู่ในที่ดิน และได้คำตอบว่า ผู้อยู่ในที่ดินอยู่ในฐานะผู้เช่าที่ดิน เช่านา และส่งข้าวให้เจ้าของที่ดินทุกปี ผมจึงตัดสินใจซื้อแบบยกแปลง และไปจดทะเบียนโอนที่ กรมที่ดิน และเสียค่าธรรมเนียมซื้อขาย ที่ที่ดิน และหลังจากซื้อผมได้เสียภาษีบำรุงท้องที่ ทุกปี หลังจากโอนที่ดินผมได้ทำหนังสือสัญญาให้ใช้สิทธิ์เหนื่อผืนดินให้ผู้ที่อยู่ในที่ดินเซ็นต์รับทราบ พร้อมประทับนิ้วมือ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง และผมได้บอกว่าจะยกที่ดินให้ผู้ที่อยู่ในที่ดินของผม จำนวน 2 งาน เนื่องจากว่าท่านเป็นคนแก่มากแล้ว โดยให้ไปยื่นเรื่องที่ที่ดินเอง แต่วันที่ที่ดินมารังวัดเขาได้ยกเลิกการรังวัดเนื่องจากว่า เขาไม่เอาแล้ว 2 งาน เขาจะเอา 1 ไร่ หลังจากนั้นเขาได้ล้อมรั้วในที่ดินของผม ตากความต้องการของเขาที่จะเอา ให้ครบ 1 ไร่ ด้วยเหตุนี้ ผมจึงไปฟ้องขับไล่ และเขาได้สู้คดีโดยอ้างสิทธิครอบครองปรปักษ์ และศาลสั่งให้เขาชนะคดี ผมงง มากเลย ตอนแรกทนายก็แนะนำให้ฟ้องขับไล่ ทนายบอกว่า เขาไม่สามารถสู้คดี ครอบครองปรปักษ์เราได้ เนื่องจากว่าตอนที่เราซื้อ เราได้ซื้อขายที่ที่ดินถูกต้อง และได้ทำสัญญากับเราแล้ว แต่สุดท้ายศาลชั้นต้นได้ตัดสินให้คู่กรณีชนะคดี ผมขอสอบถามว่า

1.ผมซื้อที่ดินแบบถูกต้องตามกฎหมาย จดทะเบียนเสียภาษี และโอนที่ดินที่สำนักงานที่ดินโดยถูกต้อง คนที่อยู่ในที่ดินของผม สามารถอ้างการครอบครองปรปักษ์ได้ด้วยหรอครับ

2.แนวทางการสู้คดี ต่อไปของผมควรทำยังงัย เพื่อให้ได้ที่ดินของผมกลับคืน

3.ศาลชั้นต้นได้ตัดสินเมื่อวันที่ 28/12/2555 ที่ผ่านมา แต่ผมได้ไปขอคัดคำตัดสิน เมื่อวันที่ 4/1/2556เพื่อจะได้นำไปปรึกษาผู้รู้กฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าเรื่องยังไม่ลงมา ผมควรทำเช่นไร ผมกลัวจะหมดเวลาอุทร

4.หรือท่านทนายมีคำปรึกษาใดที่จะเนะนำผมบ้าง

ขอความกรุณาตอบผมด้วย เนื่องจากว่าทุกวันนี้ที่บ้านก็เครียดกันหมด อยากทราบแนวทางแก้ไขที่ถูกต้อง จะได้ดำเนินการให้ทันท่วงที

ขอบคุณมากครับ

101.108.148.12

พ่อน้องนาวา

พ่อน้องนาวา

ผู้เยี่ยมชม

suchart_nik@hotmail.com

ทนายกฤษณะ

ทนายกฤษณะ

ผู้เยี่ยมชม

krish1936@gmail.com

9 ม.ค. 2556 18:30 #1

1. เขาสามารถอ้างได้ครับ แต่จะได้สิทธิครอบครองปรปักษ์หรือไม่อยู่พยานหลักฐานว่าครบองค์ประกอบของการครอบครองฯ หรือไม่
2. ควรยื่นอุทธรณ์ครับ
3. ยังมีเวลายื่นอุทธรณ์ครับ ภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษา
4. ติดต่อทนายความเพื่อยื่นอุทธรณ์ครับ เข้าไปคุยกับทนายความที่สำนักงานของทนาย และทนายต้องไปตรวจดูสำนวนที่ศาล ถึงจะทราบแนวทางที่จะยื่นอุทธรณ์ประเด็นใดบ้าง แค่ที่คุณโพสต์มาผมให้ความเห็นไม่ได้หรอกครับ ข้อเท็จจริงมันน้อยไป

124.122.236.169

ทนายกฤษณะ

ทนายกฤษณะ

ผู้เยี่ยมชม

krish1936@gmail.com

เอก

เอก

ผู้เยี่ยมชม

Eak.ptc@gmail.com

10 ก.พ. 2556 22:09 #2

ปกติเมื่อผู้ซื้อจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินถูกต้องโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต การอ้างว่าครอบครองปรปักษ์จะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่นับจากวันที่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ กรณีของคุณถ้าข้อเท็จจริงมีเท่าที่postก็ถือได้ว่าผลคำพิพากษาไม่สอดคล้องกับป.พ.พ. เพราะคุณกล่าวว่าจำเลยอยู่ในฐานะผู้เช่าจึงไม่มีการแสดงเจตนาโดยเปิดเผยว่าต้องการยึดครองกรรมสิทธิเพื่อตนเองแต่เป็นการครอบครองโดยอาศัยสิทธิจากการเช่าที่. แต่ประเด็นเรื่ิองสัญญาให้สิทธิเหนือพื้นดินที่คุณทำสัญญาไปก็เป็นการตัดสินใจที่แปลก เพราะปกตินิยมทำเป็นสัญญาเช่าปีต่อปี(ยกเว้นทำนา6ปี). ถึงอย่างไรก็ตามสัญญาให้สิทธิสภาพเหนือพื้นดินก็สามารถนำมาอ้างเรื่องผู้ครอบครองที่ดินนั้นมิได้ครอบครองเพื่อยึดถือเป็นกรรมสิทธิของตนโดยสงบและเปิดเผยจึงไม่สามารถใช้สิทธิครอบครองโดยปรปักษ์ได้. ดังนั้นข้อเท็จประกอบผลของคำพิพากษาของศาลชั้นต้นจึงดูไม่สมเหตุสมผล. เพื่อเป็นกรณีศึกษาขอส่งสำเนาคดีให้ได้ไหม? หรือบอกหมายเลขคดีดำ,ศาลที่พิจารณาคดีความนี้จะเป็นพระคุณยิ่ง

171.7.92.250

เอก

เอก

ผู้เยี่ยมชม

Eak.ptc@gmail.com

ตอบกระทู้
CAPTCHA Image
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้